ร่างกายคนเรานะครับ แขน ขา เอว จะใหญ่จะเล็ก มันมีองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้ครับ
- ไขมันใต้ผิวหนัง – เป็นเหมือน layer แรก คนที่ไขมันเยอะ ก็เหมือนใส่เสื้อหนาๆ แขนขาย่อมใหญ่เป็นธรรมดา
- กล้ามเนื้อ – ยิ่งกล้ามเนื้อเยอะ ก็ยิ่งดันให้ size ใหญ่ขึ้น แต่ต้องเยอะจริงๆ นะครับ
- กระดูก – กระดูกใหญ่ ก็เหมือนแกนกลางใหญ่ แต่ข้อนี้เราทำอะไรกับมันไม่ได้ครับ ทำใจอย่างเดียว
ทีนี้มาดูกันว่า มีกรณีไหนบ้างที่เราจะเป็นได้
กล้ามน้อยไขมันเยอะ – แบบนี้เรียกว่า skinny fat พบได้กับคนที่ออกกำลังกายไม่ถูกวิธี เช่น วิ่งเยอะมากและอดอาหาร หรือกินเหล้าเยอะ หรือไม่ยอมออกกำลังกายเลย ใส่เสื้อผ้าก็ดูปกติดีนะ แต่ถอดปุ๊ป หรือจับๆตัวจะรู้สึกเหลวๆ หรือว่าถ้าไขมันเยอะมากๆ ก็เข้าข่ายคนอ้วนนั่นเอง
กล้ามน้อยไขมันน้อย – แบบนี้คือผอม ส่วนใหญ่เป็นกรรมพันธุ์ (hormones thyroids ทำงานหนักและ insulin sensitivity ต่ำ) กินอะไรเข้าไปร่างกายไม่ค่อยเอาไปสร้างกล้าม หรือเก็บเป็นไขมัน จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายแล้วแต่คนมอง คนกลุ่มนี้ควรยกเวทหนักๆ กินเยอะๆ ให้ถูกวิธีครับ
กล้ามเยอะไขมันเยอะ – สายหมี นักซูโม่ ตัวใหญ่มาก ไขมันเยอะ เหมือนใส่เสื้อหนาวอยู่ คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยกเวท กินเยอะ แต่ไม่ได้ดูแลว่าร่างกายต้องการกี่แคลอรี่ต่อวัน (หรือกำลัง bulk) ไขมันเลยไม่ลดซะที จับดูผิวหนังนิ่มๆ แต่ตัวแน่นๆ แรงเยอะ
กล้ามเยอะไขมันน้อย – นี่แหละเป้าหมายทุกคน ทั้งหญิงชาย แบบนี้ตัวจะไม่ใหญ่มาก และจะเห็นลายกล้ามเนื้อชัดเจนครับ
การที่เรามีขาแข็งแรงมีข้อดีเยอะมาก
- cellulite หาย อันนี้คอนเฟิมเลย กล้ามขาเยอะ cellulite น้อยลง
- กระดูกข้อต่อทำงานหนักน้อยลง เพราะมีกล้ามเนื้อ support
- อึด มีแรง ไม่เมื่อยง่าย ใช้ชีวิตง่ายขึ้น
- กล้ามเนื้อมากขึ้น = กินได้มากขึ้น เพราะเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า
- วิ่งเร็ว เตะหนัก ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชาย
- ก้มเก็บของสบาย ยกของหนักได้ ไม่ปวดหลัง
- นั่งนานๆแล้วไม่เมื่อย
ท่าออกกำลังกายยอดฮิตสำหรับขา
- Squat
- Backward Lunge
- Deadlift
- Glute Bridge