ทำไมผู้หญิง อ้วนง่ายกว่าผู้ชาย
แน่นนอนว่า เพื่อนๆผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้สึกเครียด หงุดหงิด และไม่มั่นใจ ที่ร่างกายเรามีเปอร์เซ็นต์ไขมันเยอะเกินไป จนบังซิกแพคและร่อง 11 สวยๆเราไว้หมด
และที่สำคัญ ร่างกายเรามักจะชอบสะสมไขมันที่พุง สะโพก และไขมันที่ต้นขาเยอะกว่าส่วนอื่นๆด้วย ทั้งที่บางทีอาจจะกินน้อยแล้วก็ตาม
ก่อนอื่น ร่างกายเราจะชอบสะสมไขมันมากขึ้นเรื่อยๆหรือแทบจะไม่มีขีดจำกัด และการกินอาหารน้อยเกินไป จะไม่ได้ช่วยให้เราลดไขมันได้ดี หรือร่างกายจะหวงไขมันมากขึ้น
นั่นเป็นเพราะว่าเราจะต้องกินอาหารใน 1 วัน ให้ได้ไม่น้อยกว่าค่า Basal Metabolic Rate (BMR)
และค่า BMR นี้ จะเป็นปริมาณพลังงานแคลอรี่พื้นฐาน ที่ร่างกายเราจะต้องได้รับ เพื่อลดความเสี่ยงที่ร่างกายจะขาดสารอาหาร และได้รับพลังงานแคลอรี่น้อยเกินไปนั่นเอง
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า การกินอาหารแค่วันละ 450-800 แคลอรี่ จะไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักและลดไขมันที่ได้ผลดีในระยะยาว
เพราะนี่จะทำให้ร่างกายอยู่ในโหมดเอาตัวรอด (Starvation Mode) ร่างกายเริ่มหวงไขมัน เราเสี่ยงที่จะมีความสัมพันธ์ที่แย่กับอาหาร เสี่ยงที่จะ Binge Eating และโยโย่ในที่สุด เป็นต้น (1, 2, 3)
ถึงตรงนี้ เพื่อนๆก็อาจจะสงสัยว่า ไม่ว่าเราจะกินหรือไม่กิน เราก็อ้วนอยู่ดี แล้วเราจะทำยังไง?
ซึ่งคิดว่าเราต้องมาทำความเข้าใจกับร่างกายเรามากขึ้น และวิวัฒนาการณ์ของมนุษย์ ตั้งแต่บรรพบุรุษก่อนดีกว่า
ไขมันในร่างกาย มาจากไหน และคืออะไร?
ไขมันในร่างกายเราจะมาจากอาหารที่เรากินเข้าไป หรือร่างกายเราจะเปลี่ยนสารอาหาร ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
ไปเก็บไว้เป็นพลังงานสำรอง ในรูปแบบของ Triglycerides ที่เซลล์ไขมัน และพอเซลล์ไขมันรวมตัวกันเยอะๆ มันก็จะกลายเป็นเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose Tissue)
BROWN ADIPOSE TISSUE (เนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล)
ต่อมา เพื่อนๆน่าจะเคยได้ยินมาว่า ร่างกายเราจะมีไขมัน 2 ชนิดหลักๆ นั่นคือ Brown Adipose Tissue หรือเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล
ซึ่ง Brown Adipose Tissue หรือเรียกสั้นๆว่า “Brown Fat” คือ ชนิดของไขมันที่เราจะมีเยอะในตอนเด็ก และจะค่อยๆลดปริมาณลงเรื่อยๆ เมื่อเราโตขึ้น
ทีนี้ ความพิเศษของ Brown Fat คือ มันจะมี Mitochondria หรือเตาเผาพลังงานของเซลล์ เยอะกว่าไขมันในร่างกายชนิดอื่น เพื่อใช้ในการเผาผลาญพลังงาน หรือเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย (Thermogenesis)
นอกจากนี้ Brown Fat จะชอบดึงไขมันมาเป็นพลังงานมากที่สุดด้วย และพลังงานที่ได้ ยังจะถูกเปลี่ยนไปเป็นความร้อน ที่จะช่วยให้ร่างกายเราอุ่นขึ้นนั่นเองครับ (4)
แต่เราอย่าเพิ่งดีใจไปครับ เพราะพอเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายเราก็จะมีไขมันชนิดนี้น้อยมาก และส่วนใหญ่ก็จะพบได้ที่บ่า สะบัก และคอเท่านั้นด้วย
หรือเราไม่ควรเสียเวลาเพื่อไปสร้างหรือกระตุ้นการทำงานของไขมันชนิดนี้ และไปโฟกัสที่การไดเอทและการออกกำลังกายให้ดีขึ้นดีกว่าครับ
ดังนั้น คำถาม คือ ทำไมร่างกายเรามี White Adipose Tissue มากกว่า Brown Adipose Tissue หรือทำไมร่างกายชอบทำให้เราอ้วน และสะสมไขมันมากขึ้นเรื่อยๆ?
1. ไขมันในร่างกาย ทำหน้าที่เหมือนต่อมไร้ท่อ (ENDOCRINE GLAND)
ประเด็น คือ ไขมันในร่างกายเราจะสามารถสร้างและหลั่งฮอร์โมนได้เหมือนกันกับต่อมไร้ท่อ
ซึ่ง 2 ฮอร์โมนสำคัญที่มาจากไขมันในร่างกาย คือ
- ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ที่ควบคุมความหิว และความเร็วในการลดไขมัน
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญไขมัน การตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลิน และการกระจายตัวของไขมัน
นี่คือเหตุผลที่ ถ้าเพื่อนๆผู้หญิงกินน้อยๆหรืออดอาหารนานเกินไป ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และเลปตินจะลดต่ำลง จนทำให้การลดไขมันหยุดชะงัก และร่างกายจะอยู่ในโหมดเอาตัวรอด จนผมร่วง อ่อนเพลีย และประจำเดือนขาด เป็นต้น
2. ไขมันจะเป็นเหมือนเกราะป้องกัน (INSULATION) ให้กับร่างกาย
เพื่อนๆน่าจะเคยดูสารคดีแล้วเห็นเพนกวิน หรือหมีขั้วโลก ที่จะมีไขมันในร่างกายเยอะจนถึงต้นคอ นั่นเป็นเพราะว่าไขมันจะเป็นเหมือนเกราะป้องกันสำหรับร่างกาย เพื่อให้อยู่รอดกับสภาพแวดล้อมต่างๆได้ โดยเฉพาะอากาศที่หนาว
และเพื่อนๆจะสังเกตได้ว่า ถ้าร่างกายเรามีไขมันน้อยเกินไป เราก็จะรู้สึกหนาวง่ายมากเวลาเดินห้างหรืออยู่ในห้องแอร์ เป็นต้น
ทีนี้ จริงๆแล้ว ไขมันที่มีเยอะๆตามร่างกายเรานั้น จะมีไว้เพื่อใช้เป็นพลังงานสำรอง (Energy Storage) มากกว่า เพราะสมัยก่อน ตอนที่ผู้หญิงต้องอยู่ในถ้ำ บางทีก็ไม่สามารถล่าหรือหาอาหารได้เพียงพอ และไขมันจะเป็นแหล่งพลังงานเดียวที่เหลืออยู่
ซึ่งจะต่างกันกับปัจจุบัน ที่เวลาร้อนเราก็เปิดแอร์ พอไปเที่ยวประเทศที่หนาวๆ เราสามารถใส่เสื้อผ้าเพื่อให้อุ่นขึ้น และเวลานึกอยากจะกินอะไร เราก็แค่เดินเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วหยิบอะไรเข้าปากได้เลย เป็นต้น
ประเด็น คือ ร่างกายเรายังทำงานเหมือนตอนที่มนุษย์เรามีชีวิตอยู่ในถ้ำ ยังเข้าใจว่าอาจจะต้องอดมื้อกินมื้อบ้าง ร่างกายได้เรียนรู้และเลือกที่จะเก็บไขมันไว้เป็นพลังงานสำรองให้ได้มากที่สุด หรือไม่ได้พัฒนาให้เข้ากับสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เปลี่ยนไปเลยนั่นเอง
3. ร่างกายผู้หญิงจำเป็นจะต้องมีไขมันมากกว่าผู้ชาย
เหตุผลหลักที่ร่างกายผู้หญิงมีไขมันในร่างกายเยอะกว่า เพราะว่าในแง่ของกฎธรรมชาติ ผู้หญิงจะสำคัญกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงจะสามารถตั้งครรภ์ และลดความเสี่ยงที่มนุษย์จะสูญพันธุ์นั่นเอง
ซึ่งเพื่อนๆที่เคยมีลูกมาก่อนจะรู้ว่า การที่จะต้องเลี้ยงและดูแลเด็กคนหนึ่งได้ดีนั้น เราจะต้องใช้ทั้งความอดทนและความพยายามสูงมากๆ และเราจะไม่ได้นอนหลับสนิทเหมือนเดิมอีกต่อไปด้วย
และรู้ไหมครับว่า โดยเฉลี่ยร่างกายผู้หญิงอาจจะต้องใช้พลังงานแคลอรี่มากขึ้นวันละ อย่างน้อย 500 แคลอรี่ ในการดูแลเด็ก 1 คน และสมัยก่อน ตอนที่บรรพบุรุษเราอยู่ในถ้ำ การหาอาหารมากขึ้นวันละ 500 แคลอรี่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นี่คือเหตุผลที่ ไขมันในร่างกายผู้หญิง จะสำคัญและจำเป็นมากๆ และร่างกายผู้หญิงจะชอบสะสมไขมัน มากกว่าที่จะเผาผลาญไขมันออกนั่นเอง