
ไขมันดี ไขมันไม่ดี
สำหรับ ไขมันดี นั้นจะคอยทำหน้าที่รักษาความสะอาดให้กับร่างกายอยู่เสมอ จะคอยขจัดไขมันที่เกาะอยู่ตามผนังเส้นเลือดไปที่จุดศูนย์กลางใหญ่ก็คือตับ และขับออกทางน้ำดี ส่วนไขมันไม่ดี ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ เลย ก็คือจะชอบทิ้งเศษปฎิกูล ขยะ ตามผนังของเส้นเลือด ซึ่งก่อให้เกิดเป็นปัญหาหนักที่ตามมาจนแก้ไขได้ยากโดยเฉพาะโรคร้ายที่ต่างก็จ้องเล่นงานคุณอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ประโยชน์ของ ไขมัน
หลัก ๆ ทุกคนทราบอยู่แล้วเป็นทุนเดิมว่าไขมันจะคอยเสริมความอบอุ่นให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของอวัยวะภายในรวมไปถึงช่วยละลายตัววิตามินทั้งสี่ชนิด ที่มีชื่อว่า เอ ดี อี และ เค เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเหล่านี้ไปใช้งาน
นอกจากนี้ก็ยังคงให้ความสำคัญกับเซลล์ซึ่งเซลล์ของคนเราหรือผนังของเซลล์นั้นประกอบไปด้วย ไขมัน เหมือนกัน ฉะนั้นหากไม่รับประทานไขมันเลย โอกาสจะซ่อมแซมเนื้อเยื่อก็จะน้อย เซลล์จะมีความเสื่อมสภาพได้เร็ว โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญคือสมอง เราพบว่าเซลล์สมองเป็นเซลล์ที่มีส่วนประกอบของไขมันเยอะมาก ฉะนั้นคนที่ห่างไกลจากการรับประทานไขมันก็น่าเป็นห่วงอยู่ว่าในอนาคตเรื่องของระบบสมองอาจมีปัญหาตามมานั่นเอง
โทษของ ไขมัน
พูดถึงประโยชน์ไปแล้วแน่นอนว่า โทษของไขมัน ก็มีเช่นกัน โทษมักเกิดจากการสะสมของอาหารที่ย่อยสลายไม่ทัน จนเกิดเป็นการอุดตันของร่างกาย ซึ่งการอุดตันก็ส่งผลเสียทำให้ตับได้รับผลกระทบด้วย เช่น ไขมันไปเกาะที่บริเวณตับหรือไขมันพอกตับ พอตับไม่ได้นำ ไขมัน ไปใช้หรือไขมันไม่สลายในแบบที่ควรจะเป็นไปผลที่ตามมาคือ โรคต่าง ๆ ที่ยากต่อการรักษา
หน้าที่ของ ไขมัน
หน้าที่ของไขมัน นับว่าเป็นการจ่ายพลังงานให้แก่ร่างกายได้มากกว่าสารอาหารตัวอื่น ๆ และไขมันบริสุทธิ์ทุกชนิดให้พลังงานที่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นไขมันจากสัตว์หรือจากพืช เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อที่สำคัญโดยเฉพาะสมองและเส้นประสาท ช่วยลดการเกิดปัญหาผิวหนังอักเสบ ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของลูกน้อยเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดซึ่งทำร่วมกับคอเลสเตอรอลอิสระได้เป็นคอเลสเตอรอลเอสเทอร์ ทำให้ละลายได้ง่ายในเลือดนั่นเอง
การย่อยของไขมัน
เรื่องการย่อยหรือสลายไขมันของร่างกายนับเป็นสิ่งสำคัญอีกข้อ คือต้องอาศัย ‘เมตาบอลิซึม’ ที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารที่รับประทานไปให้แปลงเป็นพลังงาน และจะทำหน้าที่ในการสร้าง ด้วยการนำอาหารที่เป็นพลังงานไปซ่อมแซมอวัยวะของร่างกาย
นอกจากนี้กระบวนการเมตาบอลิซึม ยังช่วยในการเผาผลาญพลังงาน หรือเอาในส่วนของไขมันให้สลายออกจากร่างกายได้ แต่การที่ร่างกายจะย่อยหรือสลายไขมันได้จะมากหรือจะน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญทั้ง 3 สิ่ง คือ
1.อาหารที่รับประทาน
โดยเฉลี่ยแล้วพลังงานจากอาหารสำหรับผู้ชาย คือ 1,800-2,500 กิโลแคลอรี่ ส่วนผู้หญิง คือ 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่ แต่ถ้าได้รับพลังงานที่น้อยกว่านั้นความต้องการของร่างกายก็มีมากที่จะทำให้เกิดการย่อยของไขมันได้ในปริมาณที่มาก เพราะเมื่อร่างกายเผาผลาญพลังงานหลักไปหมด ก็จะไปดึงไขมันที่สะสมออกมาเผาผลาญต่อ แต่เมื่อไรก็ตามที่ได้รับพลังงานเกินกว่าความจำเป็นของร่างกาย ก็จะทำให้พลังงานนั้น ๆ ยิ่งสะสมอยู่ในรูปของไขมันต่อไปอีก
2.กิจกรรมในแต่ละวัน
เมื่อไหร่ที่ร่างกายมีการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวบ่อย ๆ ก็จะต้องมีการดึงพลังงานที่สะสมไว้ออกมาใช้ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวต่อเนื่องมากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ก็จะยิ่งทำให้เกิดการดึงพลังงานออกมาใช้งานมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง : หากเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ที่ยิ่งใช้พลังงานต่อเนื่องหรือนานพอเท่าไหร่ ก็จะยิ่งไปเพิ่มโอกาสที่ร่างกายจะดึงพลังงานจาก ไขมัน มาใช้มากขั้นเท่านั้น
3.การเผาผลาญของร่างกาย
มาถึงตรงนี้ก็จะเกี่ยวข้องกับมวลของกล้ามเนื้อที่มีในร่างกายด้วย โดยเฉพาะผู้ชายจะมีอัตราการเผาผลาญ ถ้าไม่เกิดการเคลื่อนไหวใด ๆ นานกว่าผู้หญิง เพราะฉะนั้นหากมีการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายแบบ Weight training ก็จะสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญในส่วนนี้เพิ่มขึ้นได้